ความต้องการของผู้ใช้ปลายทาง ในประเทศจีนลดลง

13 มิถุนายน 2567
ความต้องการของผู้ใช้ปลายทาง ในประเทศจีนลดลง

ดัชนีราคาผู้บริโภค (consumer price index) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดหลักของกิจกรรมการบริโภคภายในประเทศ ในเดือน พ.ค. ได้เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ข้อมูลจาก NBS เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. และดัชนี CPI เฉลี่ยของจีน ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม เพิ่มขึ้น 0.1 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

แหล่งข่าวในตลาดเหล็กบางแห่งกล่าวว่า ข้อมูล CPI ที่เพิ่มขึ้นอย่างอ่อนแอ บ่งชี้ว่าการบริโภคภายในประเทศที่ซบเซาไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลต่อแนวโน้มของทิศทางในภาคการผลิต โดยเฉพาะที่เน้นการใช้เหล็กเป็นหลัก

ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคเหล็กทรงแบนที่สำคัญ มียอดค้าปลีกในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 1.71 ล้านคัน ลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่าจะยังคงเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าก็ตาม ตามข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (China Passenger Car Association)

“ฉันไม่คิดว่าการซื้อรถยนต์นั่งในประเทศจะดีไปกว่านี้อีกมากนัก เนื่องจากรายได้ครัวเรือนที่ซบเซา ในขณะที่ความต้องการรถยนต์จีนในต่างประเทศก็มีแนวโน้มลดลงในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากอาจมีการต่อต้านรถยนต์พลังงานใหม่ของจีน” แหล่งข่าวจากโรงงานแห่งหนึ่งในจีนตะวันออกกล่าว

เขาเสริมว่า การผลิตรถยนต์โดยรวมของจีนและความต้องการเหล็กทรงแบนโดยทั่วไปน่าจะยังคงแข็งแกร่งในปี 2024 แต่การขยายตัวเพิ่มเติม ในปี 2024 และ 2025 อาจถูกจำกัด

ขณะเดียวกัน กระแสพูดคุยในตลาดชี้ให้เห็นว่า การเติบโตของยอดสินเชื่อเงินหยวนของจีน ในเดือนพฤษภาคมอาจอ่อนแอลง โดยบ่งชี้ว่ากิจกรรมการซื้อบ้านและกิจกรรมการลงทุนขององค์กรยังคงซบเซา

“แนวโน้มขาลงของภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2025 ซึ่งไม่เพียงแต่จะกระทบต่อความต้องการเหล็กก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุเบื้องหลังของการใช้จ่ายของผู้บริโภคและกิจกรรมการลงทุนที่ซบเซาในจีน” ผู้เข้าร่วมตลาดอีกรายหนึ่งในจีนตอนใต้กล่าว

Luo Tiejun รองประธานสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศจีน (China Iron & Steel Association) กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า อุตสาหกรรมเหล็กของจีนได้เห็นพ้องร่วมกันว่า ความต้องการเหล็กของจีนได้ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่จะจัดการกับอุปทานที่แข็งแกร่งในขณะที่อุปสงค์กลับลดลงอย่างไร ยังเป็นคำถามสำหรับภาคอุตสาหกรรม

เนื่องจากในเดือนมิถุนายน ความต้องการของผู้ใช้ปลายทางดูเหมือนจะอ่อนแอกว่าการผลิตเหล็ก ซึ่งราคาเหล็กเส้น (rebar) ในประเทศจีนลดลง โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ราคาอยู่ที่ 3,680 หยวน/ตัน ($507/ตัน) ลดลง 100 หยวน/ตัน เมื่อเทียบจากปลายเดือนพฤษภาคม และเมื่อเทียบจากต้นปี 2024 ราคาลดลงไป 279 หยวน/ตัน


แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.